ยุคนี้ต้องยอมรับเลยว่าซื้อของออนไลน์ผ่านอินเตอร์เน็ตมาแรงจริงๆ ทั้งราคา คุณภาพสินค้าแทบไม่แตกต่าง อีกทั้งของที่ซื้อก็ส่งให้ถึงบ้านเลย ไม่ต้องตากแดดตัวดำออกไปซื้อ แต่ถ้าหากสินค้าที่เราได้รับ มันไม่เป็นไปตามที่เราหวังล่ะ เช่น ของจริงไม่ตรงกับรูป/รายละเอียดสินค้า, มีตำหนิ, ผิดขนาด ผิดรุ่น, ใช้งานไม่ได้, เสียพัง, ฯลฯ ร้านค้าออนไลน์ดีๆ ส่วนใหญ่จะรับผิดชอบอยู่แล้ว เพื่อรักษาฐานลูกค้าไว้ อีกทั้งเป็นการสร้างความเชื่อถือให้ลูกค้าใหม่อีกด้วย
แต่ก็จะมีร้านค้าออนไลน์ที่แย่เช่นกัน ได้เงินแล้วก็ไม่สนใจอะไร ไม่รับผิดชอบ อย่าว่าจะได้เงินคืนเลย ส่งข้อความทักไปก็อ่านนะแต่ไม่ตอบ บางเจ้าหนักคือไม่ตอบเลยก็มี ดังนั้นตรงนี้จึงเป็นช่องทางที่ทำให้ แอพซื้อขายเข้ามามีบทบาท (เป็นแค่ตัวกลาง) ซึ่งหลายท่านก็รู้จักกันดี ทั้ง Shopee, Lazada, JD Central เป็นต้น ซึ่งแอพเหล่านี้ เอาจุดอ่อนดังกล่าวมาเป็นจุดแข็ง โดยการการันตี มีประกันสินค้า และสามารถคืนเงินได้หากเราเจอปัญหาในสินค้าที่ได้รับ (ส่วนใหญ่ภายใน 7 วัน)พ่อค้าหน้าเลือด เห็นแก่เงินอย่างเดียว |
ถ้าถ่ายคลิปก็ถ่ายแบบต่อเนื่องไปเลย ถึงขั้นตอนแกะสินค้าออกจากกล่อง ถ้ามีคนช่วยถ่ายจะดีมาก ถ้าไม่มีก็อาจทุลักทุเลหน่อย แต่ต้องถ่ายไว้สำคัญมาก (ซึ่งตรงนี้ก็จะช่วยยืนยันได้ว่า ปัญหาที่พบในสินค้าไม่ได้มาจากตัวเรา แบบแกะกล่องมาก็เจอเลย) และค่อยๆแกะไป ห้ามรีบ ห้ามรุนแรง เพราะเราอาจต้องใช้กล่องเดิมนี้แหละส่งสินค้ากลับคืน โดยเฉพาะสินค้าที่มีกล่องเฉพาะของตัวสินค้า (Gift box) ห้ามฉีกขาดโดยเด็ดขาดไม่งั้นคืนของไม่ได้นาจ๊ะ (ตรงนี้มักเป็นเงื่อนไขอยู่แล้ว)
หลังจากแกะกล่องแล้ว ก็ดูตำหนิเบื้องต้นคร่าวๆไปก่อน ถ้าเจอปัญหาเข้า ก็ต้องถ่ายคลิปดังกล่าวให้ต่อเนื่องไปเลย เช่น มีตำหนิ, รอยแตก, ฯลฯ แล้วก็ ถ่ายรูปเก็บไว้ดัวย ตรงนี้เอาไว้ส่งเป็นภาพประกอบตอนทำเรื่องคืนสินค้า หากเป็นสินค้าที่ต้องนำไปใช้งานก็ควรทดสอบการใช้งานให้ครบทุกฟังก์ชั่น เพื่อเราจะได้นำไประบุเป็นสาเหตุหลักของการคืนสินค้าได้
เวลาซื้อของผ่านร้านค้าออนไลน์ สิ่งสำคัญมากๆ ที่เราจะต้องนำพิจารณามีดังนี้
- เวลาจะซื้ออะไรปกติเราจะเห็นตัวสินค้า ดังนั้นการซื้อสินค้าออนไลน์ผ่านอินเตอร์เน็ต รีวิว หรือผลตอบรับ จากคนที่เคยซื้อไป สำคัญมาก มันแสดงถึง คุณภาพสินค้า และความรับผิดชอบของร้านนั้นๆ ได้เป็นอย่างดี
- รีวิวปลอมก็มี แล้วเยอะด้วย ดังนั้นพยายามเลือกสินค้าจากร้านที่มีจำนวนรีวิวเยอะที่สุด โดยเฉพาะรีวิวที่มีรูป/คลิป เพราะใช้อ้างอิงได้ดีสุด (รีวิวปลอม รูปซ้ำ รูปสินค้าไม่ตรงมีเพียบ เหอๆๆ) ระวังกันให้ดี
- เลือกร้านค้าที่รับรองโดยผู้ให้บริการ โดย Shopee, Lazada, ฯลฯ ในที่นี้หมายถึงร้านค้าที่เป็นตัวแทน Official โดยตรง เช่น Shopee Mall, Lazada Mall โดยร้านค้าพวกนี้จะมีความรับผิดชอบสูงกว่าร้านทั่วไป เวลาแคลมก็ง่ายว่าด้วยเมื่อเทียบกับร้านทั่วไป เหมาะสำหรับ ท่านที่มีเวลาน้อยในการคัดกรองร้านค้า
- หลีกเลี่ยงสินค้าที่ระบุว่า ไม่มีการรับประกัน ให้ไกล ไม่ว่าจะร้านค้าทั่วไป, Gobal, Shopee Mall, Lazada Mall เมื่อสินค้าพังแม้จะแค่วันที่ 8 ทาง Market Place ก็จะไม่สามารถดำเนินการใดๆให้ได้ โดยบอกว่าเกินวันที่กำหนด ด้วยระบบจึงไม่สามารถดำเนินการให้ได้ และฝั่งร้านค้าก็มีโอกาสที่จะไม่รับผิดชอบเช่นกัน ต้องวัดใจ ดีไม่ดีกลายเป็นเสียเงินปล่าวๆ (โดยเฉพาะคนที่ไม่ค่อยมีเวลาทดสอบสินค้า ภายใน 7 วัน ตรงนี้ควรพิจารณาเป็นอันดับต้นๆเลย)
- ดูให้ดีว่าเป็นร้านค้าทั่วไป หรือว่าร้านค้า Official แอบอ้าง เพราะว่าชื่อร้าน เจ้าของร้านสามารถตั้งแบบไหนก็ได้ Shopee, Lazada, ฯลฯ เปิดโอกาสให้ตั้งชื่อได้อิสระ ดูที่ป้าย หรือหมวดหมู่ที่ Shopee, Lazada จัดไว้ให้ว่าเป็นหมวดร้านค้า Official (แต่ก็ยกเว้นบางยี่ห้อ ที่ดูแลจัดการเอง ไม่ผ่าน Shopee, Lazada อันนี้ก็ต้องดูจากรีวิวกันดีๆ)
- แชทคุย กับทางเจ้าของร้านนั้นๆ สอบถามรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติม การใช้งานว่าตรงตามความต้องการของเราไหม เพราะบางทีมีกรณีที่ลงรายละเอียดผิด หรือลงไม่ครบถ้วน บางร้านขายเป็นอย่างเดียว ถามหลังการขายไม่รู้เรื่องเลยก็มีต้องระวัง
- อย่าเห็นแก่สินค้าราคาถูกผิดปกติ โดนกันเยอะอันนี้ 99% หลอกลวง แล้วมีให้เห็นเยอะมาก
- ท่านใดที่ไม่สามารถสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษได้ แนะนำให้หลีกเลี่ยง การสั่งสินค้าจาก ตปท. เช่น LazGobal เพราะเมื่อมีปัญหาการสื่อสารที่ไม่เข้าใจกัน ก็ดำเนินเรื่องได้ยาก แต่ LazGobal ก็มีข้อดีอยู่อย่าง คือ เมื่อสินค้ามีปัญหา เวลาเราดำเนินการของคืนเงิน และระบบยอมรับเรื่อง หากเป็นสินค้าที่มีราคาไม่แพง หลักร้อยต้นๆ ระบบจะคืนเงินให้เรา โดยที่เราไม่ต้องส่งสินค้านั้นกลับคืน (เท่าที่เจอเองนะ)
สิ่งที่ลูกค้าอย่างเราคาดหวังเมื่อซื้อของก็อยากได้ใช้งานของนั้นๆ เวลาเกิดปัญหาขึ้นจึงมักมีการคุยกับทางร้านก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อส่งสินค้าตัวใหม่มาเปลี่ยนให้ หากเจอร้านที่บริการดีก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่หากเจอร้านที่บริการไม่ดี หรือขายดีมากจนไม่มีเวลาดูแล สิ่งที่ลูกค้ามักเจอคือ ให้ดำเนินการคืนสินค้าตามระบบของ App ที่เราใช้งานอยู่ แล้วสั่งซื้อใหม่เอา แบบนี้ มันง่ายกับร้านค้า แต่สำหรับผู้ซื้อแล้วไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร เพราะเสียเวลา กว่าจะได้ใช้งานของก็ใช้เวลาเพิ่มไปอีกหลายวัน
สำหรับสินค้าที่มีระยะเวลาการประกัน เกิน 1 ปีขึ้นไป หากสินค้ามีปัญหาอะไร ผู้ซื้ออย่างเราต้องติดต่อไปที่ศูนย์บริการของยี่ห้อนั้นๆด้วยตัวเอง เพราะ พวกแอพ Market Place ทั้งหลาย ไม่ว่าเจ้าไหน เป็นแค่ตัวกลางการขายเท่านั้น กรณียี่ห้อที่มีจำหน่ายเฉพาะใน แอพดังกล่าว ก็จะเป็นกรณีพิเศษ แต่ไม่ว่ากรณีไหน ขอให้ทุกท่าน จับภาพหน้าจอหน้า คำสั่งซื้อ สินค้านั้นๆเก็บไว้เป็นหลักฐานด้วย โดยเฉพาะ เลขคำสั่งซื้อ อันนี้สำคัญมาก มาตามไล่หาทีหลังลำบากมาก ตรงนี้เอาไว้ติดต่อกับทั้งทางเจ้าหน้าที่ของแอพ และเจ้าหน้าที่ของยี่ห้อสินค้านั้นๆ เป็นการยืนยันว่าเราได้ซื้อสินค้าจริง และสามารถตรวจสอบวันเวลาซื้อ ได้รวดเร็วนั่นเอง
COMMENTS