ทำไมเราควรหยุดใช้บัญชี Facebook เพื่อใช้สมัคร/Login บริการอื่นๆในอินเตอร์เน็ต

หยุดใช้บัญชี Facebook เพื่อใช้สมัคร หรือ login เพื่อเข้าใช้งานบริการอื่นๆในอินเตอร์เน็ต กันเถอะ

ปัจจุบันต้องยอมรับว่า Facebook นั้นเป็นที่นิยมอย่างมาก ผู้ใช้งานก็เพิ่มมากขึ้นทุกวัน จนกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเราไปแล้ว เพราะเป็นสื่อกลางที่นำเสนอเรื่องราวของเราขึ้นสู่ อิืนเตอร์เน็ต ไม่ว่าคนในครอบครัว หรือเพื่อนเราที่ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของโลกก็สามารถทราบความเป็นไปของเราได้โดยง่ายผ่าน Facebook และด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้ Facebook กลายเป็นมาตราฐานของคนยุคนี้ไป บริการต่างๆในอินเตอร์เน็ตก็สามารถสร้างบัญชีใช้งานแบบง่าย เพียงแค่คุณ Login เข้าด้วย บัญชี Facebook ของคุณ แล้วทำไมนายเรย์ถึง อยากให้ทุกท่านหยุดใช้ล่ะ สาเหตุโดยละเอียดมีดังนี้

• มีความเสี่ยงที่บัญชี Facebook จะถูกแฮก จากการ Login ด้วย บัญชี Facebook เข้าใช้งาน แอพ, เว็บไซต์ หรือ โปรแกรม ที่ไม่มีความน่าเชื่อถือ หรือไม่มีความปลอดภัยพอ (พวกแอพกระแสที่เป็นที่นิยม แล้วก็หายไปนี่ตัวดีเลย)
• การแฮกบัญชี Facebook ยังสามารถทำได้หลายวิธี หนึ่งในวิธีที่นิยมที่สุดคือ access token เพราะแฮกง่ายกว่าวิธีอื่น เพียงแค่เข้าเว็บที่ติด Code ขโมย Token ก็โดนแล้ว ดังนั้นการเข้าเว็บไซต์ที่เราไม่รู้จักจึงอันตรายมาก
• มีความเสี่ยงที่บัญชีบริการต่างๆของเราจะสูญหาย เมื่อสมัครด้วยบัญชี Facebook หากบัญชีถูกระงับใช้งาน หรือถูกแบน ก็ทำให้เราไม่สามารถเข้าใช้งานบริการต่างๆที่สมัครด้วย บัญชี Facebook ด้วยเช่นกัน เรียกว่าหายทั้งยวง
• มีความเสี่ยงที่บัญชี Facebook ของเราจะถูกระงับใช้งาน หรือถูกแบน เพราะ Facebook ใช้ ระบบ Ai ในการตรวจสอบข้อมูลความผิดปกติต่างๆ นั่นเอง จึงมีโอกาสให้เราโดนแบนได้แบบไม่รู้ตัว (ซึ่งนายเรย์โดนมาเองแล้ว) ไม่ว่าจะความผิดพลาดของระบบ จากความผิดพลาดของมนุษย์(Human Error) หรือจากการกลั่นแกล้งจากผู้ใช้งานท่านอื่น ไม่มีถามที่มาที่ไป ไม่มีความอะลุ่มอล่วยใดๆ โดนแบนแบบ งงๆ ให้หัวร้อนกันไป
  

  
  

  โดนแจ้งเตือนผิดกฏชุมชน หลังโพสถามคำถามคล้ายๆกัน ในกลุ่มรถยนต์ แค่ 2 โพส ข้อหาสแปม (สดๆร้อนๆ อีกแล้ว ดูมันทำสิ)
  

  
  
  อันนี้โดนแบน จาก Human Error ที่เลือกเพจผิด แล้วกดสลับไปมา
  
  อันหลังนี่อย่างฮา คือ Official Facebook Page โดน เฟสบุ๊ค แบน 5555+

• เกิดความผิดพลาดในระบบ ยืนยัน 2 ขั้นตอน ใส่รหัสไปแล้วแต่ Facebook ไม่ login เข้าให้ ก็เลยลองอีกครั้ง ผ่านรหัส SMS ทางมือถือ หลังจากใช้งานไปได้สักพัก Facebook จะถีบเราออก และบอกว่าบัญชีคุณถูกแฮกหรือspam ซะงั้น โอกาสที่จะเจอแบบนี้น้อยมาก แต่อันนี้แหละ ที่นายเรย์เจอ เซงมากกก
• ผู้ใช้งาน Facebook อื่นๆ สามารถรวมหัวกัน เพื่อกดรายงาน (Report) บัญชีของเราได้ และเบื้องต้น Ai ก็จะระงับการใช้งานบัญชีของเราไว้ก่อน แบบนี้โดนกันเยอะ เพราะ ปัจจุบัน บัญชี Facebook ก็ยังสามารถสร้างได้อย่างง่ายดายเพียงแค่คุณมีมือถือสมาร์ทโฟนกับเบอร์ใหม่
• การยืนยันตัวตนที่ทำจริงได้ยาก หาก Ai จัดลำดับปัญหาที่เกิดขึ้นไม่หนัก คุณก็ยังสามารถเข้าใช้งาน Facebook ได้อยู่ แต่จะโดนบล็อกการเข้าถึงไปหลายส่วน ที่สังเกตุได้ง่ายสุดคือ รูปโฟรไฟล์เราจะไม่ขึ้น โดยต้องยืนยันตัวตน ผ่านข้อมูลเพื่อน เช่น ถามวันเกิดเพื่อนจากการสุ่มถาม (ตรงนี้ใครเพื่อนเยอะก็ซวยไป แม้กระทั่งเพื่อนที่พึ่งรู้จักกันผ่าน Facebook ใครจะไปจำได้หมด วิธียืนยันนี้นายเรย์คิดว่าไร้เหตุผลสิ้นดี Social Network เปิดโลกไร้พรมแดน แต่ดันบังคับทางอ้อมให้ แอดเฉพาะเพือนที่รู้จักกันจริงๆพอ ถึงจะปลอดภัย) ฯลฯ บ้างก็ต้องให้เพื่อนที่ใกล้ชิด ที่เราเลือกไว้เป็นผู้กดยืนยันให้ หลังยืนยันเสร็จก็จะใช้งานได้ตามปกติ
  หากเป็นเคสที่หนักหน่อย จะมีการใช้เอกสาร เพื่อยืนยันตัวตน ใครใช้ชื่อไม่ตรง วันเกิดไม่ตรง ก็เตรียม บอกลา บัญชีเฟส อันนั้นไปได้เลยครับ
• การ Support แบบไร้เหตุผล เมื่อถูกระงับการใช้งาน แบบไม่สามารถใช้งาน Facebook ได้ กรณีนี้หนักสุด เพราะ ช่องทางในการเรียกร้องความเป็นธรรมไม่มีเลย คือ ทำให้เราไม่สามารถเข้าใช้งานได้ Help Center ที่ Facebook มี เราก็ไม่สามารถเข้าไปร้องเรียน (Open Ticket) ปัญหาได้ ส่วนเบอร์โทรติดต่อเจ้าหน้าที่ Facebook นั้นก็มีไว้สำหรับแก้ปัญหา "บัญชีธุรกิจ" เท่านั้น!! (บัญชีที่ลงโฆษณา) สุดท้ายคือ เราต้องรอ Facebook ติดต่อมาทางอีเมล์ที่เราทำการลงทะเบียนไว้ ทางเดียวเท่านั้น และเป็นระบบอัตโนมัติ กึ่ง Ai เช่นกัน (ดูจากการถามตอบไม่รู้เรื่อง เหมือนก๊อปวาง) โดยจะให้เราทำการยืนยันตัวตน (แม้ว่าจะเคยยืนยันตัวตนไปแล้วก็ตาม บัญชีของนายเรย์ก็มี บัญชีธุรกิจผูกอยู่ด้วย) และจะให้ส่งเอกสารสำคัญต่างๆ (ที่มีรายละเอียดไม่ชัดเจนเท่าไหร บางอันในรายละเอียดที่แจ้งบอกใช้ได้ ก็บอกใช้ไม่ได้ให้ส่งใหม่ วนๆอยู่นั่น) ตรงนี้ใครโชคดี ก็สามารถกู้บัญชีคืนได้ แต่ถ้าไม่ก็จะซวยงานเข้าแบบนายเรย์ ทั้งงานที่ทำค้างไว้ในนั้น (เพจเว็บ, เพจร้านค้า. ฯลฯ) ทั้งบัญชีที่ Login ผ่าน Facebook ใช้การไม่ได้ สูญ...
• บัญชีโฆษณา โดน Hack ส่งที่ตามมาด้วยคือการกระหน่ำยิง Ads แบบผิดปกติ นอกจากจะสูญเงินแล้ว สิ่งที่ตามมาด้วยคือการโดนหมายหัว บัญชีเฟสบุ๊คด้วย ส่วนใหญ่ที่โดนเคสนี้ จะโดนแบนสถานเบา คือ ยังเข้าเฟสได้ แต่รูปโฟรไฟล์ไม่ขึ้น แต่สิ่งที่ไม่สมเหตุผลของเคสนี้ คือ ใครที่เปิดการยืนยันตัวตน 2 ขั้นตอน ผ่าน SMS ไว้ จะไม่ได้รับ SMS (เอากะเขาสิ) ห้าม log out เด็ดขาด
  ทางป้องกันไว้ก่อนเกิดเหตุไม่คาดคิด คือ ควรโหลดรหัสฉุกเฉินเก็บไว้ หรือจดลงสมุดไว้ก็ได้ อันนี้ปลอดภัยสุดละ โดยรหัสดังกล่าวอยู่ในหน้าเดียวกับที่เปิดการยืนยันตัวตน 2 ขั้นตอน เลื่อนลงด้านล่างหน่อยก็จะเจอครับ อย่างน้อยเผื่อกรณีเลวร้ายสุด log in หลุดทั้งในมือถือ ทั้งใน PC ก็จะยังสามารถเข้าไปดำเนินการยืนยันตัวตนได้
• Facebook กลายเป็นแหล่งแพร่กระจายไวรัส ด้วยความที่เฟสบุ๊ค ใช้ Ai ในการตรวจสอบความผิดปกติต่างๆ และความไม่ทันต่อเหตุการณ์ของ ทีมงานเฟสบุ๊ค ทำให้เฟสบุ๊คเป็นแหล่งแพร่กระจายไวรัส ตั้งแต่ บัญชีปลอม, ข้อความหลอกหลวงต่างๆ ที่ชวนให้เราคลิ๊กเข้าเว็บไซต์ หรือโหลดแอพ ที่เป็นไวรัสมาลงเครื่อง ล่าสุดที่นายเรย์เจอคือ Ads แพร่ไวรัสจร้า ใครเจอ หน้าตาแบบนี้ หนีให้ไกล หรือกดรายงานไปเลย ว่า Scam
  
  
  
  
  
  เมื่อลองกดเข้าไปดูในเพจ ว่าเกี่ยวกับอะไร ปรากฏว่า
  
  
  
  
  
  เป็นเพจ บริษัท ก่อสร้าง กับ การตลาด ซะงั้น รูปก็ไม่เกี่ยวข้อง 555+ ไวรัส ล้าน % จ๊ะ แบบนี้

ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันความสูญเสีย / สูญหายที่อาจจะเกิดขึ้น นายเรย์จึงอยากแนะนำให้ ทุกท่านหลีกเลี่ยงการ Login เข้าใช้บริการอื่นๆ ในอินเตอร์เน็ต ด้วยบัญชี Facebook นั่นเอง ก็อยากให้ทุกท่านลองพิจารณาดู (หาก Facebook มีการอัพเดต เปลี่ยนแปลงความปลอดภัย หรือวิธีการยืนยันตัวตน นายเรย์ก็จะเข้ามาแก้ไขบทความนี้ให้ทราบกัน)

นี่ขนาดยังไม่รวมถึง ช้อมูลต่างๆของเราที่ Facebook เก็บไว้ เพื่อนำไปอ้างอิง/ขายเป็นโฆษณา เพราะทุกท่านที่ใช้งาน Facebook ถือว่ายินยอมให้ Facebook นำข้อมูลไปใช้งานได้โดยอัตโนมัติ และ Facebook ถือว่า ข้อมูลทุกอย่างใน Facebook ไม่ว่าจะเป็น รูปภาพ, คลิปวิดีโอ, ข้อมูลส่วนบุคคล, ฯลฯ ถือเป็นทรัพย์สินของ Facebook และเช่นกัน ข้อมูลจากแอพที่ทุกท่าน Login ด้วยบัญชี Facebook จะมีการเก็บข้อมูลหมด ซึ่งตรงนี้เป็นประเด็นใหญ่เลยในต่างประเทศ จนทำให้ ชาวต่างชาติหลายคนที่ไม่พอใจในการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว ถึงกับเลิกใช้งาน Facebook ไปเลยก็มี